Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2555

เคล็ดลับไปเที่ยว 'ทะเล'ให้สนุก..กลับมาหุ่นดี

ในช่วงฤดูร้อน หลายคนคงจะนึกภาพท้องทะเลที่ดูสดชื่นและเย็นฉ่ำ หลายครอบครัวจึงวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลทางภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อชมความงามของทัศนียภาพชายทะเล หาดทราย เกาะต่างๆ และปะการังใต้ท้องทะเล รวมถึงพักผ่อนคลายร้อน ซึ่งการไปท่องเที่ยวทะเล มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติภัยทางน้ำได้
  
ข้อแนะนำสำหรับการปฏิบัติตนในการไปท่องเที่ยวทะเลอย่างปลอดภัย ดังนี้
ก่อนออกเดินทางตรวจสอบเส้นทางและศึกษาสภาพอากาศของแหล่งท่องเที่ยว โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ หากมีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นพายุลมแรง ควรงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ตรวจสอบสภาพแหล่งท่องเที่ยว หากเป็นบริเวณที่มีคลื่นสูง มีทรายดูด เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ เคยเกิดคลื่นน้ำทะเลดูด (Rip Current) หรือคลื่นซัดฝั่งอย่างรุนแรง
    
ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว จัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรค ห่วงยาง ชูชีพ เป็นต้น เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
    
ขณะเล่นน้ำทะเล ไม่เล่นน้ำหลังรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้เป็นตะคริวที่ท้อง ทำให้จมน้ำได้ ควรพักประมาณ 1 ชั่วโมงหลังทานอาหาร เล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ห้ามเล่นน้ำบริเวณน้ำลึก บริเวณที่มีคลื่นลมแรงและมีโขดหินอย่างเด็ดขาด โดยสังเกตธงที่ปักแสดงความลึกของระดับน้ำ หากเป็นธงสีเขียว แสดงว่าสามารถเล่นน้ำได้
 
หากเป็นธงสีแดงหนึ่งอันแสดงว่าอันตราย แต่ถ้าเป็นธงสีแดง 2 อันแสดงว่าพื้นที่นั้นอันตรายมาก ส่วนธงสีเหลือง แสดงว่าให้ระวัง ไม่ควรเล่นน้ำตามลำพัง หากว่ายน้ำไม่เป็น ควรสวมใส่เสื้อชูชีพหรือห่วงยาง เพื่อป้องกันการจมน้ำ ห้ามว่ายน้ำเข้าใกล้เรือขณะที่เรือกำลังแล่นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกเรือชนหรือใบพัดเรือบาด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง
 
ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้คลาดสายตาเพราะหากเด็กถูกคลื่นซัด หรือเป็นตะคริว จะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้ปลอดภัยได้
       
การปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉิน
หากถูกคลื่นทะเลดูด ให้ว่ายน้ำเลี่ยงจากจุดที่คลื่นทะเลดูดและรีบว่ายเข้าหาฝั่งทันที กรณีถูกคลื่นทะเลซัดอย่างรุนแรงห้ามว่ายสวนกระแสน้ำ ให้ว่ายขนานกับชายฝั่ง จะช่วยให้พ้นจากกระแสน้ำได้
         
นอกจากนี้ การดำน้ำชมปะการังก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม หากขาดความระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงมีข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้ 

-ตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลม ในบริเวณที่จะไปดำน้ำ หากคลื่นลมรุนแรงเกินไปก็ไม่ควรดำน้ำในบริเวณดังกล่าว ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อห้ามของพื้นที่ที่เข้าไปดำน้ำทุกครั้ง
      
-ในการดำน้ำบริเวณลึก จะต้องเรียนดำน้ำอย่างถูกวิธีและเลือกใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่เหมาะสมกับการใช้งาน
  
-ห้ามดำน้ำขึ้น - ลงอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้ก๊าซภายในปอดขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าไปอยู่ ในเลือด โดยเฉพาะช่วงขึ้นจากน้ำ จนทำให้เลือดขึ้นไปอุดตันสมอง จนเกิดภาวะน็อกน้ำทะเล ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้
      
-กรณีถูกกระแสน้ำซัด อย่าว่ายสวนหรือว่ายทวนน้ำ จะทำให้เหนื่อยง่าย ให้ใช้วิธีลอยตัวไปตามกระแสน้ำ รอจนกว่าจะมีเรือมารับ
      
-ไม่ควรดำน้ำตามลำพัง ควรมีกลุ่มเพื่อนลงไปดำน้ำด้วย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และพยายามเกาะกลุ่มไว้ เพื่อไม่ให้พลัดหลง และควรหยุดดำน้ำทันที หากเริ่มมีกระแสน้ำพัดห่างออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ หรือมีฝนตั้งเค้าและเริ่มมีคลื่นลมรุนแรงขึ้น
     
จะเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวทางทะเลมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยทางน้ำได้ในหลากหลาย รูปแบบ ดังนั้น ก่อนเดินทางควรตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพพื้นที่ จัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งของที่จำเป็น เลือกสถานที่ในการเล่นน้ำหรือดำน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญหากนำเด็กไปด้วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
    
ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพังอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การท่องเที่ยวทางทะเลเป็นการพักผ่อนคลายร้อนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและปลอดภัยได้ไปเที่ยวทั้งที ก็อย่าเอาแต่กินกับนอนเลยนะ 

มองหากิจกรรมที่ทำแล้วสนุกแถมบริหารหุ่นให้สวยเฟิร์มกันดีกว่าวิ่งในน้ำ       
เผาผลาญแคลอรีเป็นสองเท่าเพียงแค่เปลี่ยนที่วิ่งจากบนบนเป็นในน้ำ ให้ลองมองหาที่ที่มีน้ำค่อนข้างลึกและวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้สัก 30 วินาที จากนั้นให้ลอยตัวหรือว่ายน้ำสบาย ๆ เป็นการพักอีก 30 นาที เชื่อไหมว่าขอแค่ 30 นาทีที่เร่งจังหวะสลับกับผ่อนคลายไป ๆ มา ๆ จะช่วยเผาผลาญได้เกือบ 300 แคลอรีเชียวนะ
 
วิดพื้น (ในน้ำ)        
ตัวเราจะเบากว่าเมื่ออยู่ในน้ำ ดังนั้น การวิดพื้นก็จะง่ายขึ้นแล้วยังช่วยกระชับวงแขนและไหล่ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนอื่นต้องไปบริเวณตื้น ๆ มืออยู่ที่ขอบสระ ส่วนเท้าอยู่ที่ก้นสระ (ตอนนี้เราจะทำท่าคล้ายกับวิดพื้นบนบก) จากนั้นค่อย ๆ งอศอกให้ใบหน้าเราอยู่ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยต้องไม่ให้ใบหน้าแตะน้ำ จากนั้น ก็ยึดศอกขึ้น ทำท่านี้ช้า ๆ อีก 2-3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
  
Water Blender        
ที่ระดับน้ำลึกประมาณเอวให้เหวี่ยงขาขวาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วหยุดค้างไว้ จากนั้นค่อยดึงขากลับมาอยู่ในท่ายืน สลับขาข้างซ้าย/ขวา ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง
เดินชิลล์ ๆ ริมหาด (หรือในทะเล)        
ทั้งทรายและน้ำทะเลจะช่วยเหนี่ยวรั้งร่างกายของเราเอาไว้ และทำให้ร่างกายส่วนล่างต้องใช้พลังงานอย่างหนัก นักวิจัยเขาพบว่า การเดินในทะเลที่น้ำลึกระดับต้นขาจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากที่สุด และแม้แต่น้ำตื้นระดับข้อเท้าก็ช่วยให้เรียวขาฟิตแอนด์เฟิร์มสวยได้นะ
   
กระโดดข้ามคลื่น        
มุ่งหน้าที่น้ำลึกระดับเอว เช็กให้ดี ๆ ว่าแถบนั้นไม่มีก้อนหิน ย่อตัวลงและพยายามกระโดดข้ามคลื่นที่เข้ามาหาทีละลูก ถ้าเบื่อก็ลองเปลี่ยนท่าเป็นกระโดดไปข้าง ๆ ข้างหลัง หรือกระโดดสลับขาเพื่อให้ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน (ถ้ามีคลื่นยักษ์ก็ตัวใครตัวมันนะ)
 
ยืนให้มั่น        
ง่ายสุด ๆ เพียงแค่ยืนให้อยู่ในขณะที่ประจันหน้ากับคลื่น จะช่วยให้เราได้บริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องและแผ่นหลัง เมื่อรู้สึกว่าได้สมดุลดีแล้ว ลองเปลี่ยนมายืนขาเดียวหรือแข่งกับเพื่อน ๆ ว่าใครจะยืนได้นานที่สุด หรือยิ่งไปกว่านั้น ลองหันหลังให้ทะเล เวลาคลื่นมาทีจะได้ตกใจกันไปตาม ๆ กันเลยยังไงล่ะ
 
จมทุ่น!       
หาลูกบอลลอยน้ำสีสดใสมาสักลูก โจทย์ก็คือ "ทำให้จมให้ได้" ไม่จำกัดท่าทาง ตามแต่จินตนาการและควรเปลี่ยนท่าไปเรื่อย ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อแกนและร่างกายส่วนบนได้ทำงานอย่างถึงพริกถึงขิง
เดินถอยหลังในสระน้ำ  
การเดินหรือจ็อกกิ้งถอยหลังในน้ำจะเห็นผลเร็วขึ้นมาก เพราะเราจะใช้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นจากการเดินไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว (การใช้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างเพิ่ง 61% ต้นขาด้านหน้าเพิ่ม 83% และน่องเพิ่มขึ้น 47%) อย่าใช้เทคนิคนี้ในทะเลนะจ๊ะ เตือนไว้ก่อน
 
สไลด์ไปข้าง ๆ เพื่อกำจัดต้นขา  
เปลี่ยนจากเดินถอยหลังเป็นการก้าวยาว ๆ ไปด้านข้างเพื่อกระชับต้นขาทั้งด้านนอกและด้านใน พอลงสระน้ำแล้วให้ไปที่ความลึกระดับเอว และก้าวไปด้านข้างของอีกฝั่ง พยายามให้น้ำกระเพื่อมน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย Musa

รายการบล็อกของฉัน