Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Titicaca ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้

ทะเลสาบตีตีกากา (สเปน: Lago Titicaca)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ทะเลสาบตีตีกากา (สเปน: Lago Titicaca) เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีส บริเวณชายแดนของประเทศเปรูและประเทศโบลิเวีย ด้วยระดับความสูงเฉลี่ย 3,810 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ทะเลสาบตีตีกากาเป็นทะเลสาบที่สามารถเดินเรือทางพาณิชย์ที่สูงที่สุดในโลก

แผนที่ทะเลสาบตีตีกากา
ทะเลสาบตีตีกากาตั้งอยู่ในแคว้นปูโนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเปรูและในแคว้นลาปาซทางตะวันตกของประเทศโบลิเวีย ครอบคลุมพื้นที่ 8,372 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยทะเลสาบย่อย 2 แห่งซึ่งเชื่อมต่อด้วยช่องแคบตีกุยนาซึ่งมีระยะห่างประมาณ 800 เมตร ชูกุยโต (หรือทะเลสาบใหญ่) มีความลึกสูงสุดประมาณ 284 เมตร และความลึกเฉลี่ยประมาณ 107 เมตร ส่วนทะเลสาบฮุยญายมาร์กา (หรือทะเลสาบเล็ก) มีความลึกสูงสุดประมาณ 40 เมตร และความลึกเฉลี่ยประมาณ 9 เมตรเกาะ

เกาะอูรอส ซึ่งเป็นเกาะที่สร้างจากต้นโทโทรา

ภายในทะเลสาบตีตีกากานอกจากจะมีเกาะน้อยใหญ่รวม 41 เกาะ เช่น เกาะอามานตานี เกาะตากีเล เกาะแห่งพระอาทิตย์ (Isla del Sol) เกาะซูรีกี แล้วยังมีเกาะอูรอส ซึ่งเป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกด้วย
เกาะแห่งพระอาทิตย์ (Isla del Sol)เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเกาะหนึ่งในทะเลสาบ อยู่ในเขตประเทศโบลิเวีย ในบางตำนานกล่าวว่าเกาะนี้เป็นที่อาศัยของพระอาทิตย์เกาะอูรอส เกาะอูรอสเป็นเกาะที่ชาวอูรอสสร้างขึ้นจากการใช้ต้นโทโทราที่มีอยู่ทั่วไปในทะเลสาบตีตีกากา เกาะถูกยึดไว้ด้วยเชือกผูกไม้ที่ปักอยู่กับพื้นของทะเลสาบ ชาวอูรอสต้องซ่อมแซมเกาะโดยการเพิ่มต้นโทโทราจากด้านบนอยู่เรื่อย ๆ เพราะส่วนที่อยู่ใต้น้ำจะค่อย ๆ เน่าตามกาลเวลา


ข้อมูลเพิ่มเติมทะเลสาบติติกากา ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของประเทศโบลิเวียและเปรู ถือเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่าทะเลสาบใดๆ ในโลก (เหนือระดับน้ำทะเล 12,500 ฟุต) และยังได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ (เมื่อพิจารณาตามปริมาณน้ำ) อีกด้วย
แม้ว่าปริมาณน้ำที่มีอยู่มากมายในทะเล สาปแห่งนี้ จะมาจากน้ำฝน ธารน้ำแข็งที่ละลาย แม่น้ำสายหลัก 5 สาย และลำธารขนาดเล็กอีก 20 แห่ง แต่ช่องทางในระบายน้ำออกจากทะเลสาบแห่งนี้มีเพียงทางเดียวคือ การไหลออกทางแม่น้ำริโอ เดอซากัวเดโร แต่ก็ไหลออกได้เพียง 10 % ของปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลเข้ามาในทะเลสาบเท่านั้น....
ส่วนกระแสน้ำไหลเข้าอีก 90 % ที่เหลือจะถูกจัดการให้อยู่ในภาวะที่สมดุลโดยธรรมชาติ ซึ่งก็คือการทำให้น้ำ “ระเหย” ออก โดยอาศัยกระแสลมที่พัดแรงและแสงแดดจัดเป็นตัวช่วย....

เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย musa

รายการบล็อกของฉัน