ทะเลเดดซีกำลังแห้งลงในอัตราที่น่ากลัวและถ้าไม่ทำอะไรน้ำในทะเลเดดซีก็จะแห้งหมดภายใน 35 ปี
ทะเลเดดซี หรือ ทะเลแห่งความตาย ได้รับชื่อของมันจากโรมัน ที่มันมีชื่อว่าทะเลแห่งความตายก็เพราะว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความเค็มในน้ำมากจนสัตว์และพืชไม่สามารถอาศัยอยู่ในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้ได้
เดดซีมีความเค็มของเกลือ 35 เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากกว่าน้ำทะเลทั่วไปอยู่ถึง 10 เท่าตัว น้ำทะเลปกติจะมีความเค็มอยู่ที่ 3.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้บริเวณของทะเลเดดซีเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นบริเวณที่มีพื้นดินที่ต่ำที่สุดในโลกซึ่งต่ำกว่าน้ำทะเลประมาณ 400 เมตรและเป็นทะเลสาบที่มีน้ำเค็มมากที่ลึกที่สุดในโลก
ทะเลเดดซีตั้งอยู่ในหุบเขาทะเลทรายระหว่างประเทศอิสราเอลจอร์แดนและเวสต์แบงก์ เดดซีกำลังแห้งลงในอัตรา 1 เมตรต่อปีซึ่งเป็นอัตราที่น่าเป็นห่วง ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่ถูกปิดล้อมด้วยภูเขาอยู่ในบริเวณทะเลทรายซึ่งแทบจะไม่มีฝนตกเลย
ในอดีตทะเลเดดซีได้รับน้ำจากลุ่มแม่น้ำจอร์แดน แต่ตั้งแต่ปี 1960 ประเทศในแทบนี้ได้ทำการเปลี่ยนแปลงการไหลของน้ำไปใช้ในการบริโภคและการเกตรทำให้ปริมาณน้ำที่มาเติมทะเลสาบแห่งนี้แทบจะไม่มี ผู้เชียวชาญได้กล่าวว่าอุตสาหกรรมการสกัดแร่ในบริเวณทะเลสาบเดดซีเป็นปัญหาที่ทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบลดลงอีกด้วย แร่ธาตุทะเลเป็นที่ต้องการในการทำเครื่องสำอางต่าง ๆ เพราะเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติรักษาผิวพันธ์ ความร้อนแรงของแสงแดดในช่วงฤดูร้อนก็จะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำระเหยหมดไปเมื่อไม่มีน้ำจากที่อื่นมาเติม
อิสราเอลและจอร์แดนลงนามในโครงการ 900 ล้านดอลลาในการรวมมือกันเพื่อเพื่อรักษาเสถียรภาพของระดับน้ำทะเลแห่งความตายแห่งนี้ โครงการนี้จะรวมถึงการสร้างคลองจากทะเลเรดซี (the Red Sea) เพื่อมาเติมให้กับทะเลเดดซี 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
เมื่อเดือนที่ผ่านมามีนักว่ายน้ำมาราธอน 30 คนจากทั่วโลกมาว่ายน้ำข้ามทะเลเดดซีเพื่อที่จะรณรงค์ให้รู้ถึงปัญหาของทะเลสาบแห่งนี้ การว่ายน้ำในทะเลเดดซีเป็นอันตรายมากเนื่องจากความเค็มของน้ำ นักว่ายน้ำจะต้องสวมหน้ากากเพื่อปกกันตาและการกินน้ำทะเลเข้าไปซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่นักว่ายน้ำหลายคนกล่าวว่าการว่ายน้ำข้ามทะเลเดดซีนี้เหมือนกับผิวหนังถูกกัดด้วยกรดเพราะความเค็มของมัน นั่นเอง