แผ่นน้ำแข็งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ใกล้จะแตกออกจากขั้วโลกใต้แล้ว
รอยแยกกว้างราว 100 เมตร แต่คาดว่ามีความลึกถึง 500 เมตร
แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C ) ที่ขั้วโลกใต้ กำลังจะแตกตัวออกจากแผ่นดินทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว โดยยังเหลือผืนน้ำแข็งส่วนที่ยังเชื่อมต่ออยู่เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น
แผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนมหาสมุทรดังกล่าว ถือว่ามีขนาดกว้างใหญ่ติดอันดับแผ่นน้ำแข็งใหญ่ที่สุดของโลก 10 อันดับเท่าที่เคยมีการบันทึกมา อย่างไรก็ตาม แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวเสี่ยงที่จะหลุดออกจากชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังเกิดรอยแยกที่มีความลึกถึง 500 เมตรขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรอยแยกนี้ค่อย ๆ ขยายตัวออกไปไกลหลายสิบกิโลเมตร และเกิดขยายตัวอย่างรวดเร็วเพิ่มอีก 18 กิโลเมตร ในเวลาเพียงสองสัปดาห์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การที่แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวแยกตัวออก ทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าจะทำให้ชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ละลายและพังถล่มลงอย่างรวดเร็วขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้ ชั้นน้ำแข็งลาร์เซน เอ ที่อยู่ใกล้เคียงได้พังถล่มลงเมื่อปี 1995 และชั้นน้ำแข็งลาร์เซน บี เกิดแตกออกอย่างกะทันหันเมื่อปี 2002
ภาพที่บันทึกไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นรอยแยกที่ขยายตัวออกไปไกล
แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C ) ที่ขั้วโลกใต้ กำลังจะแตกตัวออกจากแผ่นดินทวีปแอนตาร์กติกา
นักวิทยาศาสตร์คาดว่า หากชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ละลายและพังถล่มลงมาในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นราว 10 เซ็นติเมตร
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ต้องละลายและแตกออก แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากภาวะโลกร้อนหรือเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ตามปกติกันแน่
รอยแยกกว้างราว 100 เมตร แต่คาดว่ามีความลึกถึง 500 เมตร
แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C ) ที่ขั้วโลกใต้ กำลังจะแตกตัวออกจากแผ่นดินทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว โดยยังเหลือผืนน้ำแข็งส่วนที่ยังเชื่อมต่ออยู่เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น
แผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนมหาสมุทรดังกล่าว ถือว่ามีขนาดกว้างใหญ่ติดอันดับแผ่นน้ำแข็งใหญ่ที่สุดของโลก 10 อันดับเท่าที่เคยมีการบันทึกมา อย่างไรก็ตาม แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวเสี่ยงที่จะหลุดออกจากชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังเกิดรอยแยกที่มีความลึกถึง 500 เมตรขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งรอยแยกนี้ค่อย ๆ ขยายตัวออกไปไกลหลายสิบกิโลเมตร และเกิดขยายตัวอย่างรวดเร็วเพิ่มอีก 18 กิโลเมตร ในเวลาเพียงสองสัปดาห์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
การที่แผ่นน้ำแข็งดังกล่าวแยกตัวออก ทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าจะทำให้ชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ละลายและพังถล่มลงอย่างรวดเร็วขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้ ชั้นน้ำแข็งลาร์เซน เอ ที่อยู่ใกล้เคียงได้พังถล่มลงเมื่อปี 1995 และชั้นน้ำแข็งลาร์เซน บี เกิดแตกออกอย่างกะทันหันเมื่อปี 2002
ภาพที่บันทึกไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นรอยแยกที่ขยายตัวออกไปไกล
แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C ) ที่ขั้วโลกใต้ กำลังจะแตกตัวออกจากแผ่นดินทวีปแอนตาร์กติกา
นักวิทยาศาสตร์คาดว่า หากชั้นน้ำแข็งลาร์เซน ซี ละลายและพังถล่มลงมาในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
Larsen C
จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นราว 10 เซ็นติเมตร
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้แผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ต้องละลายและแตกออก แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าเกิดจากภาวะโลกร้อนหรือเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ตามปกติกันแน่
