ภาพทะเลสาปเดดซีคนลอยน้ำได้ครับเพราะเค็มจัด |
หากเราเทน้ำเกลือไว้ในกะละมังแล้วนำไปผึ่งแดด2-3 วัน น้ำในกะละมังจะระเหยไปเรื่อยๆ น้ำที่เหลือในกะละมังจะเค็มขึ้นทุกทีสุดท้ายจะเหลือเพียงเกลือขาวๆให้เราเห็น ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับน้ำทะเลเมื่อสมัยประมาณหนึ่งล้านปีมาแล้วเช่น กัน น้ำทะเลจะระเหยกลายเป็นไออีกส่วนหนึ่งจะถูกลมพัดไปตกบนพื้นโลกเมื่อฝนตกน้ำส่วนหนึ่งจะไหลลงสู่ทะเล และในขณะที่น้ำไหลลงมานั้นก็จะพัดพาเอาเกลือที่อยู่บนหินและดินลงไปสู่ทะเล ด้วย ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นเวลานับล้านๆ ปี จึงเป็นสาเหตุให้น้ำทะเลเค็ม ในน้ำทะเล 1 ลิตร จะมีเกลือหนัก 15 กรัม
หากเป็นทะเลปิดเช่นทะเลสาบเดดซี (Dead Sea) จะมีปริมาณของเกลือสูงมาก
การที่ทะเลมีรสเค็มเนื่องจากการรวมตัวของน้ำละลายเกลือแร่ ที่ถูกพัดพามาจากพื้นทวีป และใต้ทะเลโดยความเค็มของทะเลจะมีความคงที่ สาเหตุที่ความเค็มของน้ำทะเลไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั้นก็เพราะในมหาสมุทรมีกระบวนการของธรรมชาติที่รักษาระดับความสมดุลของเกลือแร่คือถ้าหากว่าธาตุชนิดใดมีในน้ำมากเกินกว่าปกติก็จะถูกกำจัดออกจากน้ำทะเล โดยการแยกตัวออกเป็นของแข็งในทางตรงกันข้าม ถ้ามีธาตุใดละลายน้ำน้อยเกินปกติ เกลือแร่ของธาตุนั้นในรูปของแข็ง ก็จะถูกละลายกลับสู่น้ำทะเล ดังนั้นความเค็มของน้ำทะเลจึงคงที่มาหลายล้านปีแล้ว
น้ำทะเลเค็มเพราะมีเกลือหลายชนิดละลายอยู่ ที่สำคัญที่สุดได้แก่เกลือแกงซึ่งมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมคลอไรด์ หรือ มีสูตรเคมีว่า NaCl น้ำทะเลโดยเฉลี่ยแล้วมีเกลือร้อยละ3.5หรือน้ำทะเล 1 ลิตรจะมีเกลือละลายอยู่ประมาณ 30 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นทะเลในแผ่นดินใหญ่หรือทะเลปิด
ซึ่งไม่เชื่อมต่อกับทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป เช่น ทะเลเมดิเตอเรเนียนหรือทะเลแดง เกลือละลายอยู่มากกว่าทะเลหรือมหาสมุทรทั่วไป
ส่วนทะเลที่มีความเค็มมากที่สุดได้แก่ ทะเลเดดซี(Dead Sea) ในประเทศอิสราเอล ซึ่งมีเนื้อที่เพียง 340 ตารางไมล์ เท่านั้น โดยมีปริมาณเกลือมากถึง 10,523,000,000 ตัน ถ้าเราสามารถระเหยเอาน้ำทั้งหมดออกไปจากทุกทะเลและมหาสมุทรในโลกได้จนแหล่งน้ำเหล่านี้แห้งลงจะพบว่าเกลือที่เหลืออยู่จะมีปริมาณมากมายมหาศาลจนเหลือเชื่อ ถ้านำเกลือเหล่านี้ทั้งหมดมารวมเป็นกอง จะได้กำแพงที่สูง 180 ไมล์ และหนา 1 ไมล์ หรือมวลของเกลือทั้งหมดมีขนาดประมาณ 15 เท่าของมวลทั้งหมดของพื้นที่ทวีปยุโรป
เครดิต : dek-d.com:)
เรียบเรียงข้อมูลโดยMANMAN